วันอังคารที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

[Review] Cute Press Nonstop Beauty 8Hr Blush By niringaga ♥

สวัสดีค่าสาวๆหายจากการเขียนรีวิวไปนานมากกกกกกกกก.ไก่ล้านตัว แล้วก็ลืมพาสเวิร์ดไปอีกตามระเบียบ แหะๆกว่าจะกู้กลับมาได้เลยต้องใช้เวลานิสนุง #ร้องไห้หนักมาก

จริงๆช่วงหลังมาไม่ค่อยได้ตามผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางใหม่ๆเท่าไหร่ แต่เนื่องจากทนกระแสในทวิตเตอร์ที่ผ่านตาไปไม่ไหว ความวัตถุนิยมในตัวเลยถูกปลุกขึ้นมา พูดเลยว่าหน้ามืดมาก ไร้ซึ่งสติสุดๆเพราะสิ่งที่จะมาแชร์กันต่อไปนี้คือเจ้า "Cute Press Nonstop Beauty 8 Hr Blush" ที่แสนจะหายาก เพราะไปกี่ช็อปก็หมดเกลี้ยง! แม้กระทั่งเทสเตอร์ก็ยังหาปาดได้ยากเย็นที่ซู๊ดดดด! 

ก็แหม ของเค้างานดีจริงอะไรจริง แถมยังราคาย่อมเยาว์เหมาะกับนักศึกษาวัยใสๆ(?)แบบเราๆด้วยชิมิคะ อิ้ๆ

ต้องบอกก่อนว่าเราพรีออเดอร์มานะคะ ไม่ได้สั่งกับทางเว็บไซต์ของแบรนด์ แล้วก็ไม่สามารถไปตามหาที่ช็อปเองได้จริงๆ บวกกับความใจร้อนด้วยก็เลยสั่งพรีกับร้านหิ้วซะเลย (กระซิบว่ามาครบจาก ภาคเลยฮะ เหนือ อีสาน กลาง ใต้ เอาเถอะคู้ณณ ไม่รักจริงไม่ทำเด้อ)

ในส่วนของราคารวมค่าส่งด้วยแล้วก็จะอยู่ที่ 139-179 บาท ไม่เกินจากนี้ค่ะ แต่ถ้าหากซื้อกับทางแบรนด์เลยก็จะอยู่ที่ 159 บาทต่อตลับ และถ้าหากเป็นช่วงโปรโมชั่น เราเห็นแวบๆว่าอยู่ที่ 139 บาท ยังไงลองไปเช็คกันดูอีกทีนะคะ 

ก่อนจะเริ่มเรื่องกันแบบจริงจัง ขอแปะรูปให้ดูก่อน ยังไม่ได้แกะซีลเลย ความขี้เห่อนี้ ;3;




สำหรับบลัชออนตัวนี้มีทั้งหมด สี แบ่งเป็นโทนชมพู สี ได้แก่ 01-04 และโทนส้ม สี ได้แก่ 05-08 แต่เราเลือกมาแค่ สี เพราะว่าสีที่เหลือ ส่วนตัวรู้สึกว่าค่อนข้างทายาก เนื่องจากสีผิวเราไม่ได้ขาวมาก ออกจะติดโทนเหลืองด้วยเลยคิดว่าไม่น่าจะเวิร์ค เพราะว่าสีเบอร์ 02-03 ที่ไม่ได้เลือกมาจะออกชมพูมากเว่อร์เหมาะกับสาวๆที่มีผิวขาวจัดมากกว่าจ้ะ





เริ่มต้นกันด้วยเบอร์ 01 สี Honeymoon ยอดฮิตที่หายากที่สุดในบรรดาสีทั้งหมดที่ออกมา แอบเห็นเค้าว่ากันว่าเป็นสีฝาแฝดของ tarte ด้วย ส่วนตัวเราชอบนะคะ สีนี้ทาง่ายและดูสุภาพดี เป็นสีกันตายที่หยิบมาใช้ได้ทุกวัน ใช้ได้เรื่อยๆถ้านึกอะไรไม่ออก เนื้อสีจะเป็นโทนชมพูตุ่นๆ แต่เวลาปัดจริงจะออก coral นิดหน่อย อยู่ที่การคอนโทรลน้ำหนักของแปรงว่าจะปาดมากหรือน้อยแค่ไหน เราว่าพกตลับนี้อันเดียวสามารถครีเอทลุคได้ทั้งกลางวันและกลางคืนเลยค่ะ




สีถัดมาคือเบอร์ 04 Classic Bride สีนี้ให้ลุคเกาหลีมากมาย Stylenanda ไปอี้กกกกก  แต่ควรเบามือนิดนึงนะคะ เวลาลงค่อยๆไล่เป็นเลเยอร์ทีละชั้นดีกว่า จะได้ไม่พลาดนะไม่งั้นแก้มเป็นลิงไม่รู้ด้วยน้าส่วนตัวเรารู้สึกว่าทาง่ายเหมือนกันค่ะ แต่อาจจะไม่ค่อยได้หยิบมาใช้บ่อยเท่า 01 เพราะอย่างที่บอกไปว่าผิวเราติดโทนเหลืองมากกว่า เราเลยไม่ถนัดกับการปัดบลัชออนสีชมพูหวานแหววแบบนี้ แต่ถ้าเป็นสาวๆที่ผิวขาวหน่อย เราแนะนำสีนี้นะคะ รับรองไม่ผิดหวัง นี่ก็เพิ่งเชียร์ให้เพื่อนไปตำมาเหมือนกัน55555555 




มาถึงลูกรักกกกกกกก สีนี้ 05 Summer Beach โอ๊ยยยย ไม่ต้องมีคำบรรยายใดๆซักคำให้ลึกซึ้งงงงง คือดีงามพระรามแปดพระรามเก้ามากค่ะ ทาง่ายมากกกกก เราทาเกือบทุกวันเลย เป็นสีแรกที่ได้มาครอบครอง แล้วก็ไม่ผิดหวังจริงๆที่ตัดสินใจหยิบมา นางทาง่ายอ่ะยูวว์ เป็นส้มที่ไม่คิดว่าตัวเองจะทาได้ เพราะว่ามันดูสีอ่อนออกแนว Stylenanda เหมือนกัน แต่ที่ไหนได้ปาดสองสามทีสีติดชัดโอเคเลย เราชอบเอามาทาสูงๆแบบปัดแก้มใต้ตาเหมือนที่ช่วงนึงเค้าฮิตกัน คือดี! แนะนำมากว่าควรมีเก็บไว้นะคะ รับรองฟินเว่อร์ ถ้าไม่เชื่อต้องรีบไปหามาลองด่วนๆ แล้วจะรู้ว่าดีจริงไม่ได้อวย อิ้ๆ




สีต่อไป 06 Girl's Night Out สีนี้แอบหักคะแนนตรงที่มันเป็นขุยๆได้มั้ยง่ะ 


คือเราไม่ทราบว่าเพราะมันมีกลิตเตอร์รึเปล่านะคะ แต่เวลาแตะลงไปมันจะเป็นผงๆแบบในภาพเลย ซึ่งเรายังไม่ได้ลองกับแปรงนะ ใช้นิ้ววนๆเอาอย่างเดียว แต่ถ้าพูดถึงความดีงามของสี เราโอเค เป็นสีเดียวมีความวิ้งวับของกากเพชร อาจจะเพราะชื่อนางด้วยแมะ แบบว่าไว้ทาไปงานกลางคืน แซ่บๆ เก๋ๆไรงี้ (มโนเอาเองว่าใช่ T___T) แอบรู้สึกว่าโทนสีค่อนข้างคล้ายสี Rose Gold ของ Sleeks ด้วยค่ะ เดี๋ยวรอดูใน swatch นะคะ เราว่าสีค่อนข้างทายาก เพราะต้องลงหลายรอบมากกว่าจะได้สีที่ชัดเจนแบบในตลับ แต่ถ้าสาวๆคนไหนผิวขาวหน่อยก็อาจจะลงไม่กี่ทีก็ใช้ได้แล้ว




สีถัดมาคือ 07 Crazy In Love เป็นอีกอันที่หวีดหนักมากกกกกกกกก เครซี่ของจริงไม่ติงนังเด้อ งานอินเตอร์มากๆ เทียบเท่าแบรนด์นอกได้สบายๆเลย เพราะว่าพิกเมนต์ดีงามที่สุด ปาดทีเดียวชัดเป๊ะ แน่นอะไรขนาดนั้น ยอมแล้ววววว! แต่ก็มีข้อควรระวังคืออย่ามือหนักนะคะ ไม่งั้นเป็นลิงแน่นอนเพราะสีเค้าแน่นจริงอะไรจริง เป็นอีกสีที่เราหยิบมาใช้บ่อยเลยค่ะ อาจจะเพราะช่วงนี้เราอินกับบลัชโทนสีส้มด้วยมั้ง เลยขอเก็บเข้าคลังลูกรักอีกตลับนึงนะก๊ะ




สีสุดท้าย ท้ายสุดดดดด! 08 Super Model โอโห สมชื่อเค้าแหละค่ะ เพราะสีนี้ให้ลุคที่แพงมากกกกกกกกกก ออกโทนน้ำตาลอมส้มบ่มแดดเหมือนไปนอนรับแสงอาทิตย์อยู่ริมชายหาดมัลดีฟส์ ชิคๆไปอีก  ส่วนตัวคิดว่าใช้แทนบรอนเซอร์ได้เลยค่ะ ความดีงามของนางแพงเกินราคามากๆ เราว่าเทียบกับแบรนด์นอกได้เลย ไม่บอกไม่รู้นะคะว่านี่คือแบรนด์ไทย ภูมิใจอ้ะๆๆ





ก่อนจะจบรีวิว มาดู swatches กันบ้าง เรียงตามลำดับจากบนลงล่างเลยนะคะ ในภาพเราใช้นิ้วมือเกลี่ยเอา ส่วนมากจะปาดประมาณ รอบขึ้นไปมีแค่เบอร์ 07 ที่ลงรอบเดียว เพราะอย่างที่บอกค่ะว่าเนื้อสีเค้าแน่นจริ๊ง แล้วก็สี 06 ที่ต้องปาดหลายๆรอบหน่อยกว่าจะชัดแบบในรูปนี้

สรุปโดยรวมนะคะ ชอบมากจริงๆ และยังคงทึ่งว่านี่คือแบรนด์เครื่องสำอางของไทยจริงเหรอ เพราะคุณภาพคุ้มค่าเกินราคามากๆ แล้วก็เหมาะกับการใช้ในชีวิตประจำวันของนักศึกษาแบบเรามากๆด้วยไม่ผิดหวังเลยค่ะที่ตัดสินใจซื้อมาอย่างบ้าคลั่ง5555

ยังไงก็ขอฝากรีวิวนี้ไว้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจของเพื่อนๆนะคะ รบกวนใช้วิจารณญาณในการอ่านน้า เพราะทั้งหมดนี้เป็นเพียงความเห็นส่วนตัวของเราที่ซื้อมาใช้แล้วชอบ เลยอยากแชร์ข้อมูลให้ได้อ่านกันจ้ะ

หากมีข้อผิดพลาดประการใด ก็ต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้นะคะห่างหายจากการเขียนรีวิวเครื่องสำอางไปนานจริงๆ 

ขอบคุณทุกคนที่แวะเข้ามาอ่าน และหวังว่าโอกาสหน้าคงได้พบกันอีกนะคะ >< 

- ให้คะแนน -
ความชัดเจนของสี 5/5
คุณภาพสี 5/5
แพคเกจ 4.5/5
ราคา 5/5

@niringaga 


วันอังคารที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2557

[Nirinn96*Review] Victoria's Secret Fragrance Mist Gift Set ♥




สวัสดีค่า ลูกหมูนะคะ เย้ะ! ช่วงนี้มีเวลาว่างเยอะขึ้น เพราะมหาลัยปิดเทอมแล้ว เลยถือโอกาสทำรีวิวซะเลย ก็ใกล้ปีใหม่แล้วเนอะ เหลืออีก 1 วันก็จะเข้าสู่ปี 2015 กันแล้ว เวลาผ่านไปเร็วจริงๆเลย ยังไงก็ขออวยพรล่วงหน้าให้ทุกคนมีความสุขมากๆในปี 2015 นี้นะคะ คิดสิ่งใดสมความปรารถนา สุขภาพร่างกายแข็งแรง พร้อมฝ่าฟันทุกอย่างที่เข้ามา ขอให้เป็นปีที่ดีของทุกคนเลยน้า

มาค่ะ เข้าเรื่องของเราก็เลยดีกว่า วันนี้จะมารีวิวของขวัญชิ้นแรกที่ได้มาในเทศกาลแห่งความสุขแบบนี้นะคะ ก่อนอื่นต้องบอกเลยว่าเป็นของขวัญที่ถูกใจม๊ากกกกกกกกกกกกกกก! เนื่องจากว่าเราเป็นคนบ้าอะไรที่หอมๆ หลังจากปวารณาตัวเป็นทาสของ Bath and Body Works (ซึ่งตอนนี้มีสาขาที่ไทยแล้วเรียบร้อย) แล้วก็วอแวกับครีมอาบน้ำ โลชั่นนู่นนี่มาตลอด พอมาเจอแบรนด์ Victoria’s Secret ก็เลยทำให้อยากลองใช้ดูบ้าง เพราะได้ยินเสียงร่ำลือมานานแต่ไม่มีโอกาสได้ลองซักกะที จนได้เจ้ากิ๊ฟเซ็ตนี้มา ฟินม๊ากกกกกก อดใจไม่ไหวเลยมาทำรีวิว (+แอบเห่อ) ซะเลย คริๆ




            อันนี้เป็นหน้าตาของถุงกระดาษที่ใส่กิ๊ฟเซ็ตนี้มานะคะ สีชมพูหวานแหววแต๋วจ๋าฟรุ้งฟริ้งกิงก่องแก้วมากๆพูดเล่อะ ด้านในก็จะเป็นกล่องสีเหลี่ยมผืนผ้าลายเสือดาว บรรจุผลิตภัณฑ์มาจำนวน 5 ขวดด้วยกันแบบนี้เลยยยย



           
งามขน๊าดดดดดด งามแต๊ๆ เห็นสีอันฟรุ้งฟริ้งแล้วอยากจะฉีดมันทุกลิ่นเลย เอาแบบวันละกลิ่น 5 วันทำการก็ฉีดมัน 5 กลิ่นไปโลยยยยยยยยยยยยยยยย อรั๊งงงง ._______.




            สำหรับกลิ่นแรกชื่อว่า ‘Passion Struck’  มีส่วนผสมของ Fuji apple และ Vanila orchid ขนาด 60 ml เป็นกลิ่นที่หอมแบบหวานอมเปรี้ยวนิดๆ เหมาะกับการฉีดเวลาไปงานที่เป็นทางการ เพราะกลิ่นเค้าจะดูเป็นผู้ใหญ่ สวยหรู ดูแพง ยิ่งฉีดทิ้งไว้นานๆยิ่งหอม ไม่รู้ยังไง แต่หยุดดมไม่ได้55555555





            กลิ่นที่สองชื่อ ‘Amber Romance’ เห็นชื่อแล้วแอบนึกถึงสาวแอมเบอร์ นักร้องวง f(X) 55555555 งานเกาหลีก็มาอีกแล้วนะคะผู้หญิงคนนี้ ฮือ .__. สำหรับกลิ่นนี้ก็ยังคงความเป็นผู้ใหญ่ไว้อยู่นะ แอบรู้สึกว่าเหมาะกับการฉีดในหน้าร้อน กลิ่นแบบซัมเมอร์ๆหน่อยๆ แต่ว่าไม่ฉุน ดีงามตามท้องเรื่องครับผม





           
พี่ชายยยยยยยยยย ไคลแมกซ์อยู่ตรงนี้ค่ะ!!! ‘Coconut Passion’ เหมือนคู่แท้ที่พัดพรากจาก BBW กลิ่น Warm Vanilla Sugar ยังไงยังงั้นนนนนนนน กลิ่นดีงามมมมมม หอมมมมมม หวานนนนนนน คุณหนูมว๊าก! ตอนที่ลองเทสแล้วได้กลิ่นตัวนี้นะ สต่งสติได้จากไปแล้ว กลิ่นเค้าจะแบบหอมหวานวานิลลา เหมือนได้กลิ่นขนมอยู่บนตัวตลอดเวลา คือต่างจากชื่อลิบลับเลยค่ะ เห็นว่า coconut ก็อาจจะนึกถึงมะพร้าวไรงี้ นี่บอกเลยไม่ใช่นะคะคุณขา งานดีงานปัง คุณหนูมากจริงๆ ท้าให้ไปลองจ้า






            กลิ่นที่ 4 นี่ก็ยังคงความดีงามและปังไว้ เรียกได้ว่าเป็นอีกตัวที่ชอบรองลงมาจากกลิ่นเมื่อกี้เลยสำหรับ ‘Love Spell’ กลิ่นเค้าจะออก floral นิดๆ เหมาะกับอากาศหนาวๆมาก ส่วนผสมมี Cherry blossom กับ peach เพราะฉะนั้นจึงไม่ต้องแปลกใจในความหอมของนางเลยนะคะ ถ้าใครเคยใช้ครีมหรือสบู่ของ Etude รุ่น Dress Room สีชมพู เราจะบอกว่ามันคือกลิ่นเดียวกันเลยค่ะ หอมแบบนั้นเลยจริงๆ ขอให้คะแนนได้มั้ย ให้ 100 เต็ม 10 เลย (ใจเย็นนะป้า U__U)




            กลิ่นสุดท้ายแย้ววววววว ‘Pure Seduction’ จะบอกว่ากลิ่นนี้ตอนแรกที่ฉีด ค่อนข้างไม่ถูกใจนะ เพราะมันหอมแบบหอมพุ่งง่ะ กลิ่นทะลุทะลวงไปถึงโสตประสาท หอมจนมึนไปเลยทีเดียว55555555555555 แต่พอทิ้งไว้ซักพักนึง เอ๊ะ กลิ่นนางแอบคล้าย Love Spell อยู่นะ งงดิๆ เราก็งง หรือจมูกเราเพี้ยนไม่รู้นะคะ เง้อ T__T แต่โดยรวมแล้วกลิ่นดีงามค่ะ เหมาะกับวันสดใสๆ ฉีดเพิ่มความมั่นใจในการไปลุยงานต่างๆได้อยู่ อิ้ๆ



            


            สำหรับความเห็นส่วนตัว โดยรวมแล้วถือเป็นกิ๊ฟเซ็ตที่โอเคมากๆถ้าจะมอบให้เป็นของขวัญในช่วงปีใหม่นี้ ตัวผลิตภัณฑ์ดีงามตามยี่ห้อเลยค่ะ สามารถเลือกใช้ได้ตามอารมณ์เลยว่าวันนี้อยากได้ลุคแบบไหน ซึ่งเราว่า 2 กลิ่นแรกค่อนข้างเป็นผู้ใหญ่ สุภาพ ส่วน 3 กลิ่นสุดท้ายออกแนวสาววัยแรกรุ่นนิดๆ หอมหวาน น่าร้ากกกกกกกกกก แอร้ย (คนเขียนไม่ค่อยลำเอียงเลยเนาะ)

            ยังไงก็ขอฝากรีวิวนี้ไว้เป็นไอเดียที่จะช่วยให้ทุกคนมีตัวเลือกในการหาของขวัญดีๆซักชิ้นนะคะ ขอให้ทุกคนมีความสุขกับวันหยุดยาวที่จะมาถึงนี้ พบเจอแต่สิ่งดีๆทั่วกันเลยนะค้า

             ขอบคุณมากครับผม ^++++++^           





** รีวิวนี้เป็นความเห็นส่วนตัวของคนเขียน โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านค่ะ **








วันพฤหัสบดีที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2557

[Nirinn96*Review] Blush On Pt.2



สวัสดีค่า ฮิๆ เจอกันอีกแล้ว วันนี้มาพร้อมกับเครื่องสำอางชิ้นเด็ดที่เชื่อว่าเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับใครหลายๆคน
เห็นหัวเรื่องก็คงจะทราบกันแล้ว “Blush on Part 2” ครับผม เย้! ก็เป็นภาคต่อจากเมื่อปีที่แล้วที่เคยทำรีวิวบลัชออนในกรุของเราไว้นะคะ (ถ้าใครยังไม่เคยอ่านภาคแรก เดี๋ยวเราแปะลิ้งไว้ให้เนาะ ฮี่ๆ)

Blush on Part 1 >> http://www.jeban.com/viewtopic.php?t=168204

เราจะมารีวิวบลัชทั้งหมดที่เรามีตอนนี้พร้อมกับปาดสีให้ดูกัน เผื่อไว้เป็นทางเลือกให้ใครที่กำลังตัดสินใจถอยบลัชออนอันใหม่ ไม่พูดพร่ำทำเพลงให้มากความละน้า มาเริ่มกันเลยดีกว่าค่า




อันนี้เป็นหน้าตาภาพรวมของทั้งหมดที่เราจะรีวิวให้ดูในนี้นะคะ






 


อันแรกที่จะพูดถึงคือ 3 Concept Eyes Face Blush สี LOVE FILTER

งิ้งงงง ประเดิมกันด้วยแบรนด์สัญชาติเกาหลีอีกแล้ว (อย่าเพิ่งเบื่อเก๊านะตัววว) บลัชนี้ได้มาจากกิเลสส่วนตัวล้วนๆ คือชอบพรีเซนเตอร์แบรนด์นี้ สาวปาร์คโซราคนสวยนั่นเองค่ะ ก็ไม่มีอะไรมาก เปิดรีวิว เว็บนั่นนี่ไปเรื่อยตามประสาผู้หญิงที่รับประทานเครื่องสำอางแทนข้าว #เดี๋ยวนะ แล้วทีนี้ก็ไปเจอแบรนด์ 3CE โหยยยย แม่ขา ตาลุกวาว หนูจะเอาบลัชออนยี่ห้อนี้!!! วอแวเลือกสีอยู่นานมากกว่าจะได้มา มันสวยทุกสีอะพูดจริงๆนะ T_T
เราได้มาจากร้านหิ้วเครื่องสำอางร้านหนึ่ง ณ ห้างย่านลาดพร้าวที่ไม่ใช่เซ็นทรัล55555 พอกลับมาถึงบ้านก็แกะเลยค่ะ ประเดิมด้วยความฟินว่าปัดออกมาแล้วฉันจะสวยแบบปาร์คโซรา.................................
แต่บางทีกิเลสที่มีมันอาจจะทำให้ผู้หญิงคนนี้หลงลืมไปว่าสีผิวตัวเองกับสาวเกาหลีมันห่างกันไกลม๊ากกกกกกก ไกลลื้มมมมมมมมมมม เพราะฉะนั้นปัดรอบแรกสีไม่ติดครับ แป่ววว ปัดๆโบกๆอยู่ประมาณ 3 รอบนะคะสีถึงจะติดเป็นรูปเป็นร่าง..เราว่าถ้าเป็นสาวๆที่ผิวขาวหน่อยอาจจะไม่ต้องลงเยอะเท่านี้
 ถ้าถามเรา เราว่าเนื้อสีอยู่ในระดับที่โอเคนะ ปาดง่ายดี เหมาะสำหรับวันเบาๆสบายๆ ส่วนตัวจะชอบลงครีมบลัชสีชมพูก่อนและปัดทับเพื่อเซ็ตให้ติดทนด้วย 3CE อันนี้
ให้คะแนน 3.5/5 หักเรื่องราคาที่ค่อนข้างสูง + สีที่อ่อนไปนิสนุงฮับ








บลัชออนอันต่อไป เฮ้ยยย นายยยยย หน้าตานายคุ้นๆนะว่าไหมมมมมมมม
Sleek Blush สี Flamingo บลัชออนคู่ใจที่รีวิวไปแล้วรอบนึงในกระทู้ก่อนหน้านี้ (Nirinn96 Must Have Items) สำหรับบลัชอันนี้ไม่มีอะไรจะพูดแล้ว คือดีงาม สีสวยมาก ปัดแล้วฟรุ้งฟริ้งที่สุด ให้คะแนนเลยดีกว่า (มาเร็วเคลมเร็วนะยูวว์) เราให้ 5/5 เลยค่ะ ไม่มีอะไรจะหักเพราะรักมากจริงๆ ถึงแม้จะนอกใจไปใช้อันอื่น แต่ยังไงสลีคคือที่สุด คุ้มค่าสมราคามากๆ เลิฟ








Essence Bronzing Compact Powder #Shimmer หน้าตาอาจจะดูเหมือนมาผิดหมวด เพื่อนๆอาจจะคิดควรไปอยู่กับบรอนเซอร์มั้ย จริงๆก็คือบรอนเซอร์แหละค่ะ เพียงแต่เป็นเนื้อชิมเมอร์วิ้งๆ ซึ่งเราไม่ชอบ เราเป็นคนที่เชื่อว่าการจะกลบจุดด้อยนั้นก็ควรใช้อะไรที่เป็นเนื้อแมท ยิ่งใช้แบบวาวๆเวลาโดนแสงยิ่งเน้นให้มันชัด เพราะฉะนั้นเราเลยเอามาทำเป็นบลัชออนแทน คือจะบอกว่าสีนางสวยนะเออออ ปัดแล้วได้ลุคแก้มบ่มแดด นี่ถ้าผิวแทนกว่านี้นะ ปัดอันนี้คู่กับลิปสีส้มนู้ดนะ โฮร้ยยยยยย แซ่บลื้ม UU
เนื้อผลิตภัณฑ์จะเป็นสีน้ำตาลอมแดงหน่อยๆ มีชิมเมอร์สีทองที่สวยหรูดูแพงแซมอยู่ สิ่งที่ชอบอีกอย่างนึงคือปัดไปเถอะค่ะ จะหนักมือแค่ไหนก็สวย ไม่รู้คนอื่นที่ใช้แล้วจะว่าไงนะ แต่ส่วนตัวชอบค่ะ เป็นอะไรที่ปัดได้แบบไม่ต้องยั้งมือ5555
ให้คะแนน 5/5 คุณภาพโอเคแล้ว ราคายิ่งโอเคกว่า 175 บาท ครับผม







E.l.f. HD Blush สี Superstar ตัวนี้เป็นครีมบลัชที่เราได้มาพร้อมกับสลีคอันบนนู้น (ต้องขอบคุณเพื่อนสาวที่น่ารักที่ช่างสรรหาของดีๆแบบนี้มาให้) เป็นครีมบลัชที่ดีอีกตัวเลยล่ะค่ะ สีแน่นมากกกกกกกกก เพราะฉะนั้นจึงต้องมีสติอย่างมากในการบีบเนื้อครีมออกมาแล้วปาดลงบนแก้ม พึงระลึกไว้ว่าเมื่อไหร่ที่บีบเกินขนาดก็กรุณาตัดใจปาดส่วนที่เกินลงบนทิชชู่ซะ อย่าจับทั้งหมดนั้นปาดลงบนหน้าเด็ดขาดถ้าวันนี้คุณไม่อยากแปลงร่างเป็นงิ้ว T___T เราชอบลงอันนี้ก่อนแล้วตามด้วยบลัช 3CE จะช่วยให้สีแน่นขึ้นและสวยขึ้นประมาณสิบสเต็ปค่ะ อิๆ
ให้คะแนน 5/5 ค่า






 Etude House Color Lips Fit สี OR201 คุณพี่คนนี้ก็หน้าตาคุ้นๆเนอะ ของแบรนด์นี้เค้าดี แพคเกจสวย ราคาไม่เกินเอื้อมมาก แล้วจะหลุดรอดไปได้อย่างไรชิมิคะ อย่างที่เคยบอกว่าซื้อเพราะอ่านรีวิว พี่ๆหลายคนทาละเกิดมาก แต่เราไม่ ของเราทาแล้วควรไปเกิดใหม่55555555555555555 นางไม่ควรอยู่บนปากเรา เพราะฉะนั้นเราจึงต้องย้ายนางไปทำหน้าที่อื่น คอนเฟิร์มเลยนะคะว่าแตะเบาๆลงบนแก้มแล้วตบแป้งฝุ่นทับนะ ไฮโซวววววววววววววว
ช่วงนี้เลยหยิบใช้ค่อนข้างบ่อยเพราะเข้ากับสไตล์การแต่งหน้าแบบขี้เกียจๆของเรา มันทำให้หน้าไม่โทรม พวงแก้มเปล่งปลั่งแบบสาวเกาหลี ปาร์คโซรามาเอง (ปาร์คโซลา....ลาก่อน555555555)
ให้คะแนน 1000000000/5 (ได้ข่าวเต็ม 5 มั้ยคุณขา?)







อย่างสุดท้าย ท้ายสุดของวันนี้ เห็นหน้าค่าตาคงไม่ต้องบอก เป็นสิ่งที่เวิ่นเว้อมากหลังจากดูเปิดโต๊ะเครื่องป้าของพี่จูน (jellyfatfish) แล้วก็ Swatches สีของพี่ Noyneung โฮวววววววววววววว คือสวย คือดีงาม คือพังมาก รีบไปจัดการสอยมาอย่างด่วนๆค่ะ เพิ่งแกะแล้วปาดทำรีวิวสดๆร้อนๆเลย

4U2 THIS&THAT ที่ทางแบรนด์เคลมว่าเป็นได้ทั้ง อายแชโดว์ บลัชออน บรอนเซอร์ รวมถึงไฮไลท์ มาในแพคเกจที่ให้เราสนุกกับการมิกซ์สีเอง แกะๆถอดๆตามใจฉัน





ได้มาในราคาสีละ 134 บาท ซื้อครบ 3 สี แลกซื้อตลับได้ในราคา 134 บาทเช่นกัน (ประหยัดไป 60 บาทแหนะตัว เพราะปกติตลับราคา 194 บาทฮับ) บอกเลยว่าพิกเม้นต์แน่นมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก อยากจะปา ก.ไก่ ใส่ซักล้านตัว ไม่คิดว่าจะแน่นได้ขนาดนี้ สำหรับราคาร้อยสามสิบกว่าบาทนี่มันดีมากจริงๆยูวว์ โทนสีที่เราเลือกมาเรียงจากซ้ายไปขวานะคะ

109 Dark Chocolate ตัวนี้ตั้งใจมาทำเป็นบรอนเซอร์ แล้วก็อาจจะเอามาเขียนคิ้วด้วยถ้าเผื่อย้อมผมสีอ่อน

201 Cherries Jubilee ชื่อสีเค้าดูจุบุจิบินะ แต่สีนี่ไฮโซโก้เกร๋ฝุดๆ ปาดฉึบเดียวอยู่ค่ะ ติดทนแบบล้างด้วยรีมูฟเวอร์สองรอบไม่ออกด้วย ;__;

203 Cotton Candy น่ารักกรุบกริบ สีส้มอมชมพูหน่อยๆ  ยังไม่มีโอกาสได้ลองเทสบนแก้มนะคะ แต่คิดว่าต้องเบามืออย่างมากๆ เพราะสีแน่นมากจริงๆ ไว้ถ้ามีโอกาสจะต้องไปสอยมาไว้ในคลังแสงอีกแน่นอนค่ะ
ปล. แอบบอกนิดนึงว่าตอนเลือกสีที่เคาน์เตอร์ให้ใจเย็นๆ ดูดีๆนะคะ เพราะไฟในร้านทำให้สีเพี้ยนไปพอสมควรฮับ
ให้คะแนน 5/5 เอาใจไปเลย อิๆ

ก่อนจบกระทู้วันนี้เรามี Swatches สีให้ดูกันด้วย จะได้ตัดสินใจกันง่ายขึ้นน้า ^+++^






จากบนลงล่าง
1.       4U2 THIS & THAT #109 Dark Chocolate
2.       4U2 THIS & THAT #201 Cherries Jubilee (อยากให้ดูความแน่นของสี U.U)
3.       4U2 THIS & THAT #203 Cotton Candy
4.       3CE Face Blush #LOVE FILTER (สีนี้ปาดไป 4 รอบนะคะ)
5.       Sleek Blush #Flamingo
6.       Essence Bronzing Compact Powder #Shimmer




รีวิวทั้งหมดเป็นความเห็นส่วนตัวของเรา โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านนะคะทุกคน แล้วพบกันใหม่คราวหน้าจ้า 
ขอบคุณคร้าบบบบบบบบบบบ ♥♥♥♥♥♥